ปลายปี 2566 ท่ามกลางผืนป่าลึกของอุทยานแห่งชาติคลองลาน ลูกเสือโคร่งลายพาดกลอนตัวเล็ก ๆ ได้ลืมตาดูโลกเป็นครั้งแรก เขาเป็นหนึ่งในลูกเสือสองตัวของแม่เสือประจำถิ่นรหัส F19 และเป็นลูกเสือครอกแรกที่ถูกบันทึกภาพได้ในอุทยานแห่งนี้ ลูกเสือตัวหนึ่งในคู่แฝดได้รับชื่อพิเศษว่า “Gamma” เพราะลายเส้นบริเวณสะโพกสองข้างของเขาโค้งเป็นรูปคล้ายตัวอักษรกรีก “γ” ทำให้ชื่อนี้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่ง “เสือโคร่งรุ่นใหม่” ที่กำลังฟื้นคืนในผืนป่าแม่วงก์–คลองลาน
เติบโตท่ามกลางผืนป่าแห่งความหวัง
กล้องดักถ่ายภาพอัตโนมัติเริ่มบันทึกภาพ Gamma และครอบครัวของเขาตั้งแต่ไม่นานหลังคลอด ภาพเหล่านั้นเผยให้เห็นลูกเสือตัวน้อยเดินตามแม่อย่างซุกซน เรียนรู้การใช้ชีวิตในทุ่งหญ้าที่ได้รับการปรับปรุง โดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และ WWF ประเทศไทย ร่วมดำเนินการเพื่อฟื้นฟูสัตว์กีบชนิดต่าง ๆ เช่น กวางป่า และกระทิง หลายครั้ง เราได้ภาพ Gamma และพี่ชายเดินไปมาระหว่าง อุทยานแห่งชาติคลองลาน และอุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญของผืนป่าตะวันตก (Western Forest Complex)
ทุกภาพที่ปรากฏให้เราเห็น คือ “ชัยชนะเล็ก ๆ” ของงานอนุรักษ์
เพราะการรอดชีวิตของลูกเสือถือเป็นหนึ่งในสัญญาณที่งดงามที่สุดของการฟื้นตัวของประชากรเสือโคร่งในภูมิทัศน์ป่าไม้และสัตว์ป่า เพราะช่วงเยาว์วัยของเสือคือช่วงเวลาอันเปราะบาง เต็มไปด้วยความเสี่ยงต่อการอยู่รอด โดยเฉพาะลูกเสือเพศผู้ที่ต้องออกจากแม่และออกเดินทางตามลำพังเพื่อค้นหาพื้นที่หากินและอาณาเขตของตนเอง
การหายตัวไป: ช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอน
มกราคม 2568 ขณะที่ Gamma อายุประมาณ 16 เดือน วัยที่ลูกเสือเพศผู้เริ่มออกจากอาณาเขตของแม่ เขาก็หายไป ไม่มีภาพ ไม่มีรอยเท้า ไม่มีสัญญาณของลูกเสือทั้งสองตัว ที่น่าเป็นห่วงยิ่งกว่านั้นคือ มีเสือโคร่งเพศผู้โตเต็มวัยตัวใหม่เข้ามาในพื้นที่ของแม่ F19 ซึ่งอาจก่อให้เกิดพฤติกรรมตามธรรมชาติที่เสือเพศผู้นอกพื้นที่ฆ่าลูกเสือที่ไม่ใช่สายพันธุ์ของตน
Gamma ออกเดินทางไปแล้วหรือ? หรือเขาถูกฆ่าก่อนจะมีโอกาสเติบโต? หลายเดือนผ่านไปพร้อมความกังวล
จนภาพหนึ่งเปลี่ยนทุกอย่าง
พฤศจิกายน 2568 กล้องดักถ่ายภาพอัตโนมัติในอุทยานแห่งชาติลานสาง ที่อยู่ไกลจากถิ่นเกิดทางตอนเหนือ สามารถบันทึกภาพเสือโคร่งเพศผู้รูปร่างสมบูรณ์ ลวดลายสะโพกที่คุ้นตาชี้ชัดทันทีว่า นี่คือ Gamma

ไม่ใช่แค่รอดชีวิตเท่านั้น แต่ Gamma เติบโตแข็งแรงเต็มวัย ในวัยราว 26 เดือน เขาได้เดินทางข้ามผืนป่าอย่างน่าทึ่งจาก อุทยานแห่งชาติคลองลาน → อุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า → อุทยานแห่งชาติลานสาง รวมเป็นระยะทางกว่า 70 กิโลเมตร

เส้นทางการเคลื่อนที่ของ Gamma
เสือโคร่งเพศผู้อายุน้อยมักต้องเดินทางไกลเพื่อออกหากินและค้นหาอาณาเขตของตนเองและการเดินทางครั้งนี้ของเขาอาจยังไม่สิ้นสุด เขาจะปักหลักที่อุทยานแห่งชาติลานสาง หรือจะมุ่งหน้าต่อไปยังผืนป่าอื่น ยังเป็นเรื่องที่ต้องติดตามต่อไป ทว่า สิ่งที่ชัดเจนที่สุดคือเขาได้ผ่านช่วงเวลาอันเปราะบางและอันตรายที่สุดในชีวิตของเสือมาได้แล้ว
3 บทเรียนสำคัญในงานอนุรักษ์
1. การรอดชีวิตของ Gamma คือหลักฐานชัดเจนว่าประชากรเสือโคร่งกำลังฟื้นตัว
เสือโคร่งเพศผู้ที่ยังไม่โตเต็มวัยมักมีอัตราการตายสูงมาก การที่ Gamma สามารถเอาตัวรอดจากเสือเจ้าถิ่น ฝ่าฟันภัยธรรมชาติ และกระจายตัวไปตั้งหลักในพื้นที่ใหม่ได้ สะท้อนให้เห็นว่าผืนป่าของไทยยังคงเชื่อมต่อกันอย่างมีประสิทธิภาพ
2. Gamma เป็นลูกเสือชุดแรกที่เกิดในอุทยานแห่งชาติคลองลาน
ตลอดกว่า 10 ปีที่ผ่านมา เราพบเสือโคร่งเพศเมียในอุทยานแห่งชาติคลองลานอยู่บ้าง แต่ไม่เคยพบลูกเสือเลย โดยมีสาเหตุสำคัญคือปริมาณเหยื่อที่ไม่เพียงพอ กระทั่งปี 2565 ที่กรมอุทยานฯ ร่วมกับ WWF ประเทศไทย เริ่มโครงการปล่อยกวางป่าคืนสู่ธรรมชาติ สถานการณ์ก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไป
เสือโคร่ง F19 ซึ่งมีอาณาเขตทับซ้อนกับพื้นที่ปล่อยกวางป่า ได้กลายเป็นแม่เสือตัวแรกที่สามารถเลี้ยงลูกให้รอดชีวิต และ “Gamma” คือหลักฐานเชิงนิเวศอันชัดเจนว่า การฟื้นฟูเหยื่อ คือรากฐานของการฟื้นฟูประชากรเสือโคร่ง
อีกหนึ่งเรื่องที่น่าทึ่งคือ เมื่อหลายปีก่อน แม่เสือ F19 ได้เคลื่อนย้ายถิ่นจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันออก มายังอุทยานแห่งชาติคลองลาน ก่อนจะให้กำเนิด Gamma ในผืนป่าแห่งนี้ และวันนี้ Gamma ก็ได้ก้าวตามรอยแม่ ขยายถิ่นขึ้นไปทางเหนือจนถึงอุทยานแห่งชาติลานสาง
เส้นทางที่ทั้งแม่และลูกเลือกเดินราวกับเป็นมรดกที่สืบทอดอยู่ในสายเลือด รหัสพันธุกรรมที่ชี้นำพวกเขาให้รักษาเส้นทางดั้งเดิมของเสือโคร่งให้ยังคงมีชีวิตอยู่ในผืนป่าไทยต่อไป
3. ผืนป่าแม่วงก์-คลองลาน แหล่งผลิตเสือโคร่งแห่งใหม่ในผืนป่าตะวันตก
แม้ประชากรเสือโคร่งในสองอุทยานจะพึ่งพาการอพยพเข้ามาจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่และห้วยขาแข้ง ซึ่งถือเป็นแหล่งผลิตเสือโคร่งที่สำคัญของประเทศไทย แต่ผืนป่าแม่วงก์-คลองลานก็เริ่มแสดงบทบาทของการเป็นแหล่งผลิตเสือโคร่งอย่างชัดเจน
Gamma คือข้อพิสูจน์
ลูกเสือโคร่งที่เกิดในผืนป่านี้สามารถเติบโตและกระจายถิ่นไปยังพื้นที่อนุรักษ์ใกล้เคียง เช่น อุทยานแห่งชาติลานสาง ช่วยเพิ่มความเชื่อมโยงของประชากรเสือโคร่งในระดับภูมิทัศน์ และสะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของการฟื้นฟูประชากรเหยื่อ เช่น กวางป่า ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนการฟื้นตัวของเสือโคร่งในผืนป่าตะวันตกของไทยอย่างแท้จริง
ลูกเสือโคร่งตัวน้อย ผู้แบกความหวังอันยิ่งใหญ่
จากลูกเสือตัวเล็กที่มีลายพิเศษ สู่เสือหนุ่มผู้เดินทางข้ามผืนป่า เรื่องราวของ Gamma ไม่เพียงสะท้อนความแข็งแกร่งและความสามารถเอาตัวรอดของเขาเท่านั้น แต่ยังสะท้อนการฟื้นตัวของผืนป่าแม่วงก์–คลองลาน สิ่งที่ Gamma ได้บอกเราก็คือ การฟื้นฟูทุ่งหญ้าและประชากรสัตว์กีบ เช่น กวางป่า กำลังได้ผล การมีอาหารที่เพียงพอไม่เพียงช่วยให้แม่เสือสามารถเลี้ยงลูกรอดชีวิต แต่ความเชื่อมโยงของผืนป่าก็ช่วยให้เสือสามารถกระจายตัวออกไปยังพื้นที่อนุรักษ์ใกล้เคียง และผืนป่าแห่งนี้กำลังคืนเสือกลับสู่ธรรมชาติอีกครั้ง
แม้การเดินทางของ Gamma ยังไม่สิ้นสุด แต่วันนี้ เราขอร่วมเฉลิมฉลองให้เขา ในฐานะ สัญลักษณ์แห่งความหวัง ว่าผืนป่าไทยยังสามารถฟื้นคืนได้จริง
จากคลองลาน…สู่ลานสาง Gamma กำลังบอกเล่าเรื่องราวของป่าที่กลับมามีชีวิตอีกครั้ง