มูลนิธิการจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน (มูลนิธิ 3R) จับมือกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานพันธมิตร จัดพิธีลงนามประกาศเจตนารมณ์ความร่วมมือการผลักดันความรับผิดชอบของผู้ผลิตและการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อการจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน สนับสนุนเป้าหมาย Net Zero 2065 ของประเทศ
พิธีดังกล่าวจัดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายในงาน SUSTAINABILITY EXPO 2025 โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการผลิตและการจัดการบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ผ่านการเก็บกลับบรรจุภัณฑ์เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และสร้างการจัดการขยะที่ยั่งยืนในพื้นที่เปราะบาง โดยอาศัยความร่วมมือจากภาครัฐ เอกชน ภาคประชาสังคม และประชาชน
ภายในงานยังมีการเสวนาในหัวข้อ “จากเกาะเล็กสู่แรงบันดาลใจใหญ่ เกาะเต่าโมเดล บรรจุภัณฑ์หมุนเวียนอย่างยั่งยืน” โดยมีผู้แทนจากหลายภาคส่วนร่วมแลกเปลี่ยน ได้แก่ นายอภิชาติ มีเพียร นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเกาะเต่า คุณธนบูรณ์ สมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ครีเอทีฟ มูฟ จำกัด และคุณเอกนฤน อริยวงศ์วิวัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง WWF ประเทศไทย และผู้จัดการโครงการ MA-RE-DESIGN
คุณเอกนฤนได้กล่าวถึงโครงการ MA-RE-DESIGN ที่ WWF ขับเคลื่อนร่วมกับเทศบาลและภาคธุรกิจการท่องเที่ยว โดยเลือกเกาะเต่าเป็นพื้นที่นำร่อง สำหรับการจัดการขยะและบรรจุภัณฑ์หมุนเวียน ด้วยความท้าทายด้านพื้นที่และต้นทุนการจัดการขยะ แต่ก็ได้รับความร่วมมืออย่างเข้มแข็งจากทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ตัวอย่างเช่น การสนับสนุนการใช้บรรจุภัณฑ์ที่สามารถใช้ซ้ำในงานประจำปีบนเกาะเต่า ซึ่งได้รับการตอบรับจากทั้งผู้เข้าร่วมงานและผู้ประกอบการ ส่งผลให้ลดการสร้างขยะได้มากถึง 9,006 ชิ้น หรือเทียบเท่าการลดคาร์บอน 692 kgCO2e
โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของแนวคิด Plastic Smart Cities โดย WWF มีบทบาทในการสนับสนุนด้านเทคนิค การสำรวจสถานการณ์ขยะ พัฒนาแผนปฏิบัติการ และสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคธุรกิจการท่องเที่ยว และชุมชน ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของความยั่งยืน ทั้งนี้ จากผลการดำเนินงานตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา เครือข่ายในพื้นที่ได้พัฒนาความรู้ความเข้าใจด้านการจัดการขยะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในอนาคต WWF มุ่งหวังให้เกาะเต่ากลายเป็นแรงบันดาลใจในการขับเคลื่อนสู่ Net Zero 2050 ของประเทศ และสอดคล้องกับเป้าหมายระดับโลกของ WWF คือ No Plastic in Nature ภายในปี 2030 โดยเกาะเต่าจะไม่ใช่เพียงโมเดลชุมชนเล็ก ๆ แต่จะเป็นต้นแบบสำคัญของระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนสำหรับเกาะและเมืองท่องเที่ยวอื่น ๆ ในประเทศไทยและภูมิภาค

