เมื่อวัชพืชธรรมดาถูกเสิร์ฟบนจานอาหารระดับร้านมิชลิน

WWF ประเทศไทย ร่วมกับมูลนิธิเกษตรกรรมยั่งยืน (ประเทศไทย) และโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ภูเก็ต รีสอร์ต ในการจัดหาวัตถุดิบจากสมาชิกของเครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก ภาคใต้ของประเทศไทย ในจังหวัดสงขลา พัทลุง และนครศรีธรรมราช โดยมีเป้าหมายในการปรับเปลี่ยนระบบอาหาร โดยมุ่งเน้นการเชื่อมโยงภาคธุรกิจเข้ากับเกษตรกรที่ทำระบบเกษตรกรรมยั่งยืน เพื่อเป็นการส่งเสริมการจัดหาวัตถุดิบในท้องถิ่นและอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ

การเชื่อมโยงเครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือกภาคใต้เข้ากับโรงแรม ช่วยให้พวกเขาได้ทำงานและสื่อสารโดยตรงกับเชฟ ซึ่งนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่เกื้อกูลกัน ความไว้วางใจ และความเข้าใจที่ดียิ่งขึ้น ด้วยวิธีการนี้ ทำให้โรงแรมเข้าใจธรรมชาติและฤดูกาลผลิตของพืชท้องถิ่น สามารถจัดซื้อผักพื้นบ้านได้ตามฤดูกาล ขณะที่เกษตรกรก็มีความเข้าใจถึงความต้องการของร้านอาหารในโรงแรม นอกจากนี้ ความสัมพันธ์นี้ยังช่วยให้เชฟของโรงแรมได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตผลท้องถิ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภูมิปัญญาท้องถิ่น และความรู้ทางพฤกษศาสตร์พื้นบ้าน โดยตรงจากพี่น้องเกษตรกร

พี่จ๋า ณฐา ชัยเพชร สมาชิกเครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก ภาคใต้ ระหว่างนำทีมเชฟจากโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ภูเก็ต รีสอร์ต ออกสำรวจหาพืชกินได้ที่ขึ้นตามธรรมชาติในสวนสมรม อ.เทพา จ.สงขลา ซึ่งเป็นระบบเกษตรนิเวศที่ปล่อยให้พืชพื้นถิ่นขึ้นตามธรรมชาติและไม่ใช้สารเคมีทางการเกษตรในระบบการผลิต 
สมาชิกเครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก พัทลุง ขณะกำลังนำเสนอพันธุ์พืชกินได้และการใช้ประโยชน์จากภูมิปัญญาท้องถิ่นแก่ทีมเชฟจากโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ภูเก็ต รีสอร์ต ระหว่างลงพื้นที่คลองปากประ จ.พัทลุง

พี่แอด เสาวนีย์ สุทธิชล สมาชิกเครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก ภาคใต้ ขณะจัดเตรียมวัตถุดิบที่เก็บเกี่ยวจากสมาชิกในพื้นที่ นครศีธรรมราช และพัทลุง ก่อนส่งไปที่ภูเก็ต ซึ่งผลผลิตส่วนใหญ่เป็นพันธุ์พืชขึ้นตามป่าพลุ ปากแม่น้ำ และระบบนิเวศท้องนา   

เชฟทำงานร่วมกับเกษตรกรเพื่อทำความเข้าใจผลิตผลให้ดียิ่งขึ้น และนำความรู้และประสบการณ์ด้านการทำอาหารของตนมาต่อยอดในการสร้างสรรค์เมนูอาหารที่ให้ความเคารพต่อที่มาทางวัฒนธรรมของผลิตผลเหล่านั้น พร้อมนำเสนอในมุมมองใหม่ของอาหารชั้นเลิศระดับไฮเอนด์ (high-end fine dining) พืชอาหารไม่ต่ำกว่า 50 ชนิด ได้ถูกจัดส่งสู่โรงแรม อาทิเช่น ผักเสี้ยนผี หน่อสิเหร่ง ผักเหมียง หน่อปุด ดาหลา เอื้องหมายนา ดอกปืนนกไส้ ใบแว่นแก้ว ผักตบชวา เป็นต้น

นอกจากการช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนผ่านการสนับสนุนให้ภาคธุรกิจจัดหาผลิตผลที่อยู่ใกล้แหล่งผลิตมากขึ้นแล้ว การทำงานร่วมกันระหว่างเกษตรกรและโรงแรมยังสามารถช่วยแนะนำพืชผักหลากหลายชนิดเหล่านี้ให้เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคได้มากขึ้น โดยพืชกินได้เหล่านี้เป็นทั้งพืชพื้นเมืองและพืชต่างถิ่น เกือบทุกชนิดถูกมองว่าเป็น “วัชพืช” ซึ่งมีความหมายในเชิงลบ แต่เกษตรกรเครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือกภาคใต้ที่บริโภคพืชกินได้ ซึ่งขึ้นตามธรรมชาติในสวนวนเกษตรเป็นกิจวัตรประจำวัน รู้ว่าส่วนใดของพืชสามารถนำมาปรุงอาหารได้ ด้วยความรู้ด้านพฤกษศาสตร์พื้นบ้านจากพี่น้องเกษตรกร จึงมีส่วนเติมเต็มศาสตร์และศิลป์ในการปรุงอาหารของเชฟ และสร้างสรรค์เมนูอาหารที่แปลกใหม่ สื่อสารคุณค่าของการรักษาสิ่งแวดล้อมและสนับสนุนภูมิปัญญาท้องถิ่นผ่านจานอาหาร   

เชฟหนุ่ย เฉลิมวุฒิ ศรีวรกุล (กลาง) มอบของที่ระลึกให้แก่ พี่จ๋า ณฐา ชัยเพชร และ พี่แอด เสาวนีย์ สุทธิชล ณ ห้องอาหารจรัส ขณะเปิดพื้นที่ให้พี่น้องเครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก ภาคใต้ ได้เข้าชมการเดินทางของวัตถุดิบของชุมชนสู่จานอาหารของโรงแรม

เชฟหนุ่ย เฉลิมวุฒิ ศรีวรกุล ห้องอาหารจรัส “Jaras” โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ภูเก็ต รีสอร์ต กล่าวว่า “การริเริ่มนี้นำไปสู่เมนูอาหารที่นอกจากวัตถุดิบจะปลอดสารเคมี และเป็นไปตามฤดูกาลแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย รับรู้ถึงคุณค่าทางจิตวิญญาณและการรักษาสิ่งแวดล้อมของชุมชนจากวัตถุดิบที่ส่งตรงจากพี่น้องเกษตรกร”

พี่จ๋า ณฐา ชัยเพชร เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก ภาคใต้ อ.เทพา จ.สงขลา กล่าวว่า “การส่งผลผลิตเข้าสู่โรงแรมทำให้ชุมชนพึ่งพาตนเอง มีรายได้เพิ่มขึ้น และหนุนเสริมธรรมชาติให้เกื้อกูลกัน เมื่อชาวบ้านรู้ว่าวัชพืชเหล่านี้มีราคา เขาก็จะเก็บไว้ ไม่ฉีดยาฆ่าหญ้า และนำวัชพืชเหล่านั้นกลับมาใช้เป็นอาหารสอดคล้องกับระบบนิเวศ สร้างสมดุลของธรรมชาติ”

พี่แอด เสาวนีย์ สุทธิชล เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก ภาคใต้ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ชุมชนมีฐานทรัพยากรที่หลากหลายอยู่ในพื้นที่ แต่ด้วยชุมชนไม่ได้หยิบไปใช้ในวิถีชีวิต พืชท้องถิ่นจึงค่อย ๆ หายไป เมื่อโรงแรมและเชฟได้ค้นหาวัตถุดิบท้องถิ่น จึงกระตุ้นให้ชุมชนสนใจ เห็นความสำคัญของพืชเหล่านั้น จึงเริ่มดูแล  ปลูกเพิ่มมากขึ้น  และเปิดมุมมองในการปรุงและการทานได้หลากหลายเมนูมากขึ้น”

WWF ประเทศไทย ผ่านโครงการ SCP (Sustainable Consumption and Production) มุ่งหวังในการขยายโครงการนำร่องนี้ไปยังโรงแรมและกลุ่มเกษตรกรอื่น ๆ ทั่วประเทศ

เกี่ยวกับ WWF ประเทศไทย​

องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล หรือ WWF เป็นองค์การระหว่างประเทศที่ดำเนินงานด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ปัจจุบัน WWF มีผู้สนับสนุนมากกว่า 5 ล้านคนจากทั่วโลกและเครือข่ายขององค์กรทำงานร่วมกันกว่า 100 ประเทศ พันธกิจของ WWF คือการอนุรักษ์ไว้ซึ่งความหลากหลายทางชีวภาพ และการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนโดยที่มนุษย์สามารถอยู่ร่วมกันกับธรรมชาติได้อย่างสมดุล โดยในประเทศไทยมีการดำเนินงาน 5 ด้าน ได้แก่ การอนุรักษ์สัตว์ป่า การอนุรักษ์ป่าไม้ การอนุรักษ์มหาสมุทร และการจัดการขยะพลาสติก การหยุดยั้งการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และการจัดการทรัพยากรน้ำจืด

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ WWF ประเทศไทย สามารถดูรายละเอียดได้ที่:

บทความอื่นๆ