แม่แจ่ม อำเภอในจังหวัดเชียงใหม่ที่มองไปทางไหนก็มีแต่ไร่ข้าวโพด คิดจะปลูกพืชชนิดอื่น เช่น ผลไม้ ก็ลำบาก เพราะพื้นที่ก็แห้งแล้ง จะทำเกษตรยั่งยืนก็ไม่มีความรู้ เพราะทำเกษตรเคมีมานาน จะหาเมล็ดพันธุ์ผักตามท้องตลาดมาปลูก ก็ปลูกได้เพียงครั้งเดียว ต้องซื้อใหม่ตลอด ค่าเมล็ดพันธุ์ก็แพง ไม่คุ้มต่อการปลูกกินเองและการลงทุน จนเป็นที่มาของคำบอกเล่าจากคนที่นี้ว่า “คนแม่แจ่มไม่มีทางเลือก” สุดท้ายป่าก็หายและลงเอยด้วย “ป่าข้าวโพด”
เมื่อการมาถึงขององค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (สำนักงานประเทศไทย) หรือ WWF ประเทศไทย ที่มาริเริ่มงานพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนและส่งเสริมการเข้าถึงอาหารปลอดภัยให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ตำบลกองแขก อำเอภแม่แจ่ม อาทิ การจัดตั้งและพัฒนาวิสาหกิจชุมชนเกษตรยั่งยืนตำบลกองแขก หรือ“กลุ่มเกษตรยั่งยืนกองแขก” ที่จัดอบรมให้ความรู้การแปรรูปมะขาม การทำปุ๋ยและการปลูกผักอินทรีย์ ส่งเสริมการปลูกที่หลากหลาย ศึกษาดูงานวิสาหกิจชุมชนแม่ทาออร์แกนิค รวมถึงการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ผักอินทรีย์ให้แก่สมาชิก จนเกิดตลาดนัดเขียวเกษตรยั่งยืนกองแขก ซึ่งได้รับการสนับสนุนสถานที่จัดตลาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลกองแขก


จากเดิมที่แม่บ้านซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุต้องอยู่บ้านอย่างเหงา ๆ ก็ได้มาจับกลุ่มขายของร่วมกัน มีเพื่อนคุยแก้เหงา ไม่ต้องเสี่ยงกับภาวะซึมเศร้า ในอดีตอาจจะยังไม่มีทักษะการขายสักเท่าไร ก็เริ่มขายเป็น เริ่มสังเกตว่าลูกค้าต้องการอะไร รู้ว่าธรรมชาติของผักในแต่ละฤดูกาลเป็นอย่างไร เมื่อก่อนลูกค้าไม่กล้าซื้อผักที่นี่ เพราะผักไม่สวย มีรูแมลงเจาะ ตอนนี้ใคร ๆ ก็กล้าซื้อ เพราะมั่นใจได้ว่าเป็นผักปลอดสาร ไม่ใช้เคมี รวมทั้ง เริ่มมีคนในชุมชนมาถามหาเมล็ดพันธุ์เพื่อขอแบ่งไปปลูก เพราะคนกองแขกรู้กันทั่วแล้วว่าเมล็ดผักจาก WWF สามารถเก็บและนำไปปลูกต่อได้

Dr. Ulf Jaeckel กระทรวงสิ่งแวดล้อม คุ้มครองธรรมชาติ ความปลอดภัยทางปรมาณูและคุ้มครองผู้บริโภค สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และ Tanja Ploetz จาก WWF เยอรมนี เข้าเยี่ยมสมาชิกตลาดนัดสีเขียว กลุ่มเกษตรยั่งยืนกองแขก ณ องค์การบริหารส่วนตำบลกองแขก จ. เชียงใหม่

การเดินทางของตลาดนัดสีเขียวเกษตรยั่งยืนกองแขก ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต และบทสรุปจากการเรียนรู้ของสมาชิก และการพัฒนาระบบอาหารที่ยั่งยืนของชุมชน ต. กองแขก อ. แม่แจ่ม จ. เชียงใหม่
ช่วงหลังมานี้ ตลาดนัดสีเขียวเกษตรยั่งยืนกองแขกกลายเป็นที่รู้จักของคนในชุมชน เมื่ออยากกินผักปลอดสาร ก็ต้องนึกถึงที่นี่ แม้แต่คนที่อยู่อำเภอแม่แจ่ม ซึ่งห่างจากตลาดกว่า 10 กิโลเมตร ก็เริ่มที่จะเข้ามาจับจ่ายซื้อผักจากที่นี่ จากการทำงานที่ผ่านมา ได้สร้างความภาคภูมิใจให้แก่สมาชิก ทำให้กลุ่มฯ มีกำลังใจที่จะพัฒนาพื้นที่กระจายอาหารปลอดภัย และสร้างแหล่งเรียนรู้อาหารพื้นถิ่นให้แก่คนในชุมชนต่อไป
การพัฒนาระบบเกษตรกรรมและอาหารยั่งยืนด้วยตลาดนัดสีเขียวอาจเป็นบันไดขั้นแรกสู่ “โอกาส” ของชาวแม่แจ่มก็เป็นได้