(พะยูน “มิราเคิล” ถูกพบ ณ อ่าวตังเข็น จังหวัดภูเก็ต)
ระหว่างวันที่ 28–30 ตุลาคม 2568 WWF ประเทศไทย ร่วมกับ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ “อบรมสร้างนักวิทยาศาสตร์พลเมืองเก็บข้อมูลสัตว์ทะเลหายากด้วยโดรน” (Citizen Science Drone Training for Endangered Marine Species Survey) เพื่อเสริมสร้างศักยภาพและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการเฝ้าระวังและอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการริเริ่มที่มีความสำคัญต่อการพัฒนางานอนุรักษ์อย่างยั่งยืนในประเทศไทย
การอบรมจัดขึ้นเป็นเวลา 3 วัน ณ ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน จังหวัดภูเก็ต โดยได้รับเกียรติจาก คุณทิพามาศ อุปน้อย ผู้อำนวยการศูนย์ฯ และคุณเอกนรินทร์ อริยวงศ์วิวัฒน์ ผู้อำนวยการส่วนงานอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งและผู้จัดการโครงการ MA-RE-DESIGN จาก WWF ประเทศไทย เป็นประธานกล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมรุ่นแรกอย่างอบอุ่น เพื่อเข้ามามีบทบาทในฐานะนักวิทยาศาสตร์พลเมือง (Citizen Science) ที่พร้อมมีส่วนร่วมในการปกป้องทรัพยากรทางทะเลของประเทศไทย


(คุณทิพามาศ อุปน้อย ผู้อำนวยการศูนย์ฯ และ คุณเอกนรินทร์ อริยวงศ์วิวัฒน์ ผู้อำนวยการส่วนงานอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งและผู้จัดการโครงการ MA-RE-DESIGN จาก WWF ประเทศไทย กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมอบรม)


(วิทยากรถ่ายทอดเทคนิคการใช้โดรนเพื่อการสำรวจทางทะเล)
ในวันแรกของการอบรม ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้เกี่ยวกับนิเวศทางทะเล สถานการณ์ของสัตว์ทะเลหายากในประเทศไทย และบทบาทของนักวิทยาศาสตร์พลเมืองในการสนับสนุนงานอนุรักษ์ พร้อมทั้งศึกษาการใช้โดรนหลายใบพัด (Multirotor Drone) มาตรฐานการสำรวจทางอากาศ เทคนิคการระบุเอกลักษณ์รายตัว (Photo ID) และการจัดการข้อมูลเบื้องต้น เพื่อใช้เป็นเครื่องมือสำหรับงานวิจัยและติดตามทรัพยากรทางทะเลในอนาคต



(ผู้เข้าร่วมอบรมเรียนรู้มาตรฐานความปลอดภัยของการใช้โดรนและทดลองบินสำรวจพะยูนและสัตว์ทะเลอื่น ๆ ณ อ่าวตังเข็น)
ไฮไลต์ของการอบรมในวันที่สอง คือ โอกาสพิเศษในการเฝ้าสังเกตพะยูน “มิราเคิล” รวมถึงสัตว์ทะเลชนิดอื่น ๆ ในพื้นที่อ่าวตังเข็น ผู้เข้าร่วมได้ฝึกปฏิบัติการบินโดรนจริงภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ โดยเน้นย้ำเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยและจรรยาบรรณในการสำรวจ นอกจากนี้ ยังได้เรียนรู้เทคนิคการถ่ายภาพและวิดีโอความละเอียดสูง เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการติดตามและศึกษาสัตว์ทะเลหายากในอนาคต
ตลอดระยะเวลา 3 วันของการอบรม ผู้เข้าร่วมและวิทยากรได้รับทั้งความรู้เชิงเทคนิคและประสบการณ์ที่ล้ำค่าในการใช้เทคโนโลยีโดรนเพื่อการอนุรักษ์ พร้อมแลกเปลี่ยนมุมมองและสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งช่วยเสริมสร้างเครือข่ายและแรงบันดาลใจให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งของประเทศอย่างยั่งยืน

เมื่อจบการอบรม ผู้เข้าร่วมทุกคนได้รับ ใบอนุญาตนักบินโดรนอย่างเป็นทางการ (Drone Operation License) ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการขยายเครือข่ายนักวิทยาศาสตร์พลเมืองด้านการอนุรักษ์ทางทะเลในประเทศไทย โครงการนี้จึงนับเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงพลังของ ความร่วมมือ นวัตกรรม และการลงมือทำร่วมกัน เพื่อขับเคลื่อนงานอนุรักษ์ทางทะเลของประเทศให้ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง