จากจุดเริ่มต้นของกลุ่มคนที่ชื่นชอบสัตว์ป่าและมีความมุ่งมั่นกลุ่มเล็กๆ WWF ได้กลายเป็นองค์กรอิสระด้านการอนุรักษ์ที่ยิ่งใหญ่และได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลก ด้วยการสนับสนุนของผู้คนมากกว่า 5 ล้านคนและการปฏิบัติการมากกว่า 100 ประเทศจาก 5 ทวีปทั่วโลก

เมื่อเวลาผ่านไป ความตั้งใจของ WWF ไม่ได้หยุดเพียงแค่การรักษาชีวิตสัตว์ป่าแต่ยังรวมไปถึงการอนุรักษ์ธรรมชาติและพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนท้องถิ่นที่จะรักษาความหลากหลายทางชีวภาพและการพัฒนาที่ยั่งยืนให้กับโลกใบนี้

© WWF

Mr. Aram R. W. Beach Law Vira shield, Advisor to the Minister of Energy on Earth Hour stage on 26 March 2011

© WWF Thailand

พัฒนาการของ WWF
 ภาพรวมเพียงบางส่วนที่แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จจำนวนมากที่ WWF ได้สร้างขึ้นด้วยความร่วมมือกับองค์กรต่างๆ , นักวิทยาศาสตร์ , ผู้ดูแลสวนและอุทยานต่างๆ , ชุมชนท้องถิ่น , รัฐบาล , องค์กรและกลุ่มธุรกิจอื่นๆ เราทุกคนได้ร่วมมือกันเพื่อสร้างโลกให้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของทุกชีวิตในโลกใบนี้ได้อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข
Otočje Galapagos, Ekvador

© WWF / WWF-Japan/Ozaki Haruko

ศตวรรษที่ 17

ในศตวรรษแรกที่ทำการก่อตั้ง WWF เราสามารถหาเงินทุนสนับสนุนกิจกรรมการช่วยโลกได้สูงถึง 5.6 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ

ด้วยความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ในสมัยนั้น เงินสนับสนุนจำนวนดังกล่าวได้นำไปเป็นส่วนช่วยเหลือโครงการต่างๆกว่า 356 โครงการทั่วโลกทั้งการสำรวจสัตว์ป่า , ความพยายามป้องกันการรุกล้ำรวมไปถึงการให้ความรู้กับการศึกษา  สัตว์และแหล่งธรรมชาติต่างๆที่ได้รับการดำเนินการจากเงินสนับสนุนครั้งนี้ได้ทำให้องค์กรกลายเป็นที่รู้จักในสัญลักษณ์ของการอนุรักษ์สัตว์ป่าและธรรมชาติและได้กลายเป็นเป้าหมายหลักในการทำงานของ WWF  นี่เป็นครั้งแรกที่เรื่องการอนุรักษ์สัตว์ป่าและธรรมชาติได้กลายเป็นเรื่องสาธารณะ

1962: ก่อตั้งสถานีวิจัยในหมู่เกาะกาลาปากอส
1963:
ก่อตั้งโรงเรียนเกี่ยวกับการบริหารจัดการสวนและอุทยาน
1965:
การเพิ่มประชากรแรดขาว
1966:
ออกสำรวจสัตว์ป่าในประเทศแอฟริกาใต้
1969:
ซื้อพื้นที่ร่วมกับรัฐบาลสเปนจัดทำอุทยานแห่งชาติ

African lion (Panthera leo) looking through the a window of tourist's vehicle. South Africa. Distribution Sub-Saharan Africa.

© WWF / Martin HARVEY

ศตวรรษที่ 18

WWF ยังคงตั้งเป้าหมายที่การรักษาสิ่งมีชีวิตและการอนุรักษ์ธรรมชาติแหล่งที่อยู่อาศัยตลอดช่วงศตวรรษที่ 18 แต่วิธีการได้ถูกปรับเปลี่ยนไป 

แทนที่จะรักษาแต่สิ่งมีชีวิตและธรรมชาติบางพื้นที่ WWF ได้เริ่มการส่งเสริมการอนุรักษ์ที่คลอบคลุมมากขึ้นซึ่งจะส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตและธรรมชาติได้มากยิ่งขึ้น

ในส่วนนี้ WWF ได้ก้าวขึ้นมามีบทบาทร่วมกันกับรัฐบาลต่างๆภายใต้สนธิสัญญาระหว่างประเทศด้านสิ่งแวดล้อมและเริ่มที่จะแก้ไขปัญหาภัยคุกคามบางส่วน

1971: เริ่มสนธิสัญญาระหว่างประเทศกับการปกป้องพื้นที่ป่าชายเลน
1972:
ขยายขนาดจำนวนประชากรเสือได้ถึง 30%
1975:
เริ่มต้นการอนุรักษ์ป่าฝน
1976:
เริ่มต้นอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์

An adult Tiger in JDNP

© JDNP/WWF

ศตวรรษที่ 19

ในโอกาสครบรอบ 20 ปี WWF ได้สนับสนุนการปกป้องพื้นที่ต่างๆใน 5 ทวีปทั่วโลกซึ่งนับเป็น 1% ของพื้นที่บนพื้นผิวโลกและยังคงสานต่อโครงการการพิทักษ์สิ่งมีชีวิตสายพันธ์ต่างๆอย่างต่อเนื่อง

WWF ได้ตระหนักว่าเพียงแค่ความพยายามในการอนุรักษ์สวนอุทยานและป้องกันการสูญพันธ์ต่างๆนั้นคงไม่พอ WWF ได้นำแนวทางของผู้ก่อตั้งมาเป็นแนวทางในการพัฒนานั่นคือการอนุรักษ์ที่มีผลกระทบต่อชีวิตมนุษย์นั้นจะได้รับความสนใจจากประชาชนมากกว่าการหยิบยกมาเป็นเพียงประเด็นเพียงอย่างเดียว ซึ่งแนวคิดเหล่านี้ได้เป็นการวางรากฐานสำหรับการพัฒนาอย่างยั่งยืนซึ่งได้กลายมาเป็นแนวทาง , ปรัชญาและกลยุทธ์ของ WWF อีกด้วย

1980: กลยุทธ์การพัฒนาอย่างยั่งยืนครั้งแรกของโลก
1981: การวิจัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับสารเคมีที่เป็นพิษ
1982: การวางมาตรการการล่าวาฬในเชิงพาณิชย์
1986: ร่วมมือกับรัฐบาลแคเมอรูนในการบูรณาการอนุรักษ์และการพัฒนา
1989: กลไกการจัดการเงินสนับสนุนในการอนุรักษ์รูปแบบใหม่
1989: ร่วมมือกับรัฐบาลจีนในแผนอนุรักษ์แพนด้ายักษ์แห่งชาติ

ศตวรรษที่ 20

ในศตวรรษที่ 20 ประเด็นปัญหาสภาพแวดล้อมทั่วโลกอันเป็นผลพวงมาจากกิจกรรมของมนุษย์ได้เป็นที่ยอมรับแพร่หลายมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกันกับการตระหนักถึงคุณค่าของความหลากหลายทางชีวภาพและภัยคุกคามใหม่ๆที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ความร่วมมือกันต่างๆได้รับการจัดตั้งขึ้นอย่างชัดเจนในพันธกิจสากลของ WWF โดยได้ทำให้เกิดแนวทางและนโยบายการปฏิบัติการต่างๆนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา  WWF ได้พยายามเปลี่ยนแปลงจากการทำงานภายในพื้นที่ของแต่ละประเทศมาเป็นโครงการที่เราทุกคนสามารถร่วมมือกันได้ WWF ได้พัฒนากลยุทธ์ในการอนุรักษ์ธรรมชาติที่สำคัญต่อโลกใบนี้ซึ่งได้ถูกกำหนดออกมาดังต่อไปนี้ สายพันธ์ , ป่าไม้ , ทะเล , น้ำจืด , การเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติและสารเคมีที่เป็นอันตราย

นอกจากการร่วมมือกันกับองค์กรพันธมิตรต่างๆแล้วทาง WWF ยังได้เริ่มที่จะเดินหน้าร่วมมือกับภาคธุรกิจในการส่งเสริมการจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน

1992: จัดตั้งอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ
1993: พัฒนาการจัดการทรัพยากรธรรมชาติในชุมชนท้องถิ่น
1993: เริ่มต้นมาตรฐานการเก็บเกี่ยวทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ป่า
1997: การตื่นตัวในความพยายามลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
1998: เริ่มจัดทำรายงานสิ่งมีชีวิตประจำปี
1999: การประกาศข้อตกลงในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในสาธารณรัฐคองโก

Keeper/handler Kevin Mpiolea with orphaned gorillas reintroduced into the wild. Projet Protection des Gorilles, Gabon/Congo West-Central Africa: Nigeria to DRC.

© WWF / Martin HARVEY

ศตวรรษที่ 21

WWF ได้ยกระดับความต้องการและความตั้งใจในการที่จะสร้างความเปลี่ยนที่จะนำไปสู่การอนุรักษ์ , การพัฒนาอย่างยั่งยืนและการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน

เป้าหมายสองประการที่ทาง WWF มีคือการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพและลดการปล่อยก๊าซที่เป็นอันตรายต่อธรรมชาติ WWF ได้ใช้ความรู้และความสามารถรวมไปถึงพันธมิตรต่างๆจากทั่วโลกในการสร้างนวัตกรรมที่จะช่วยให้การอนุรักษ์ต่างๆเป็นไปได้ดียิ่งขึ้น  ความพยายามเหล่านี้มีความสำคัญต่อพื้นที่ต่างๆที่มีขนาดกว้างใหญ่ไพศาลและมีความสำคัญต่อโลกเช่น อาร์คติก , สิ่งมีชีวิตและธรรมชาติที่มีผลต่อชีวิตมนุษย์รวมไปถึงความท้าทายในการแก้ปัญหาระดับโลกเช่นการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่มีผลต่อตลาดการค้าระดับโลก

2002: ความพยายามครั้งใหญ่ในการที่จะรักษาพื้นที่อเมซอน
2003: WWF แสดงมูลค่าทางเศรษฐกิจของธรรมชาติ
2007: Earth Hour ครั้งแรกในเริ่มขึ้น
2008: การรับรองน้ำมันปาล์มที่ผ่านกระบวนการผลิตอย่างยั่งยืนเข้าสู่ตลาด
2009: การปกป้องสถานที่ซึ่งจะเป็นแหล่งทรัพยากรทางน้ำที่ใหญ่ที่สุดของโลก
2010: Earth Hour ที่จัดขึ้นทั่วโลก

สนับสนุน
สนับสนุน